เราจะทำอย่างไรเพื่อให้ปลอดภัยจาก PM2.5

Facebook
Twitter
LinkedIn

ตามที่องค์การนามัยโลก กล่าวว่าอากาศภายในบ้านแย่ยิ่งกว่าอากาศนอกบ้าน

Air pollution INFOGRAPHICS English

ทุกวันนี้เขตเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร มีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่นับวันยิ่งมากขึ้น เป็นเหตุให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ไม่ควรอยู่ในที่พักอาศัย และการปิดประตูหน้าต่างก็เป็นเหตุให้อากาศไม่สามารถถ่ายเทได้ ฝุ่นละอองจึงตกค้างภายในบ้าน ปัญหาอากาศเหล่านี้ยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆในระดับที่เป็นอันตราย ทั่วทุกภูมิภาคของโลก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่า 9ใน10คน หายใจนำอากาศที่มีมลพิษสูงเข้าสู่ปอดตลอดเวลา

ดังนั้น อะไรที่จะสามารถทำให้อากาศภายในบ้านของเราดีขึ้น?

ทางออกที่ดีที่สุดคือการระบายอากาศภายในบ้าน การระบายอากาศจะทำให้อากาศไหลเวียนถ่ายเทและเปลี่ยนนำอากาศภายนอกเข้ามา หลักการที่ดีคือการเปลี่ยนอากาศหนึ่งครั้งทุก 2 ชั่วโมง (หรือเปลี่ยนอากาศ0.5 ต่อชม)

คุณจะทำได้อย่างไร ?

ภายในบทความนี้ เราจะยกตัวอย่าง2วิธีที่สามารถสามารถช่วยคุณได้ แต่หากคุณสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่บทความนี้… https://ventpro.co.th/whole-house-mechanical-ventilation/

นำอากาศจากภายนอกเข้ามาโดยผ่านตัวกรอง ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่เราไม่ต้องการฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

ทางเดียวที่สามารถทำได้คือการติดตั้งช่องนำเข้าอากาศ Passive Wall Vents ที่มาพร้อมกับตัวกรองPM2.5โดยสามารถติดตั่งได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ส่วนรวมอื่นๆ โดยปกติแล้วห้องนอนเป็นพื้นที่ ที่สมควรติดตั้งช่องนำเข้าอากาศ passive wall vent ที่มาพร้อมตัวกรอง PM2.5 อย่างน้อย 1ตัว เพราะสามารถกรองฝุ่นละอองPM2.5 ได้ในพื้นที่ขนาด 15-20 ตารางเมตร ดังนั้นในพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเช่น ห้องนั่งเล่น หรือห้องอื่นๆควรติดตั้งมากขึ้น

การระบายอากาศแบบนี้ คุณจำเป็นต้องติดตั้งพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ พัดลมที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องหรือเป็นระยะเพื่อระบายอากาศหรือความชื้นที่เกิดขึ้น วิธีนี้จะสร้างสามารถสร้างระบบหมุนเวียนอากาศได้จากการดึงอากาศบริสุทธิ์จากช่องนำเข้าอากาศที่ติดตั้งอยู่ที่ผนังของบ้าน และข้อดีของระบบนี้คือความเรียบง่ายที่มาพร้อมกับต้นทุนต่ำ

TH หมายถึง T คือ ตัวจับเวลา Hคือเซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้น เมื่อความชื้นสูงขึ้น เช่นขณะอาบน้ำ พัดลมระบายอากาศจะเริ่มทำงานอย่างอัตโนมัติ และจะไม่หยุดทำงานจนกว่าความชื้นจะลดลงจนถึงค่าที่คุณตั้ง และตัวจับเวลาจะช่วยให้พัดลมทำงานภายใน 2-30 นาที หลังจากคุณปิดสวิซต์

มีการทำงานอย่างต่อเนื่องในระดับความเร็วต่ำและประหยัดพลังงาน แต่เมื่อมีความชื้นสูงพัดลมจะเพิ่มงานทำงานในระดับความเร็วสูงสุด เพื่อทำการดูดความชื้นออกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และพัดลมจะกลับสู่โหมดการทำงานในระดับความเร็วต่ำอีกครั้ง

ดูพัดลมดูดอากาศเพิ่มเติมได้ที่นี่….

ระบบระบายอากาศแบบสมดุลที่มากับการนำพลังงานกลับมาใช้

ERV ENG THAI

การระบายอากาศแบบสมดุลจะมีพัดลม 2 ตัว ตัวแรกสำหรับนำเข้าอากาศจากภายนอกเข้าสู่อาคารและอีกตัวสำหรับการดูดอากาศออกสู่ภายนอก โดยการกรองทั้งสองช่องทาง เช่น อากาศที่นำเข้ามาโดยการผ่านตัวกรอง G4และ F7 ที่สามารถป้องกันมลพิษและPM2.5 ไม่ให้สามารถเข้าไปในบ้านได้ จะทำให้บ้านของคุณมีอากาศที่บริสุทธิ์

ในการระบายอากาศแบบสมดุล ในระบบERVจะมีการแลกเปลี่ยนความร้อนและความชื้นระหว่างกัน (โดยอากาศทั้งสองจะไม่ผสมกัน) เพื่อลดความร้อนและภาระในการทำความเย็นที่เกิดจากการถ่ายเทอากาศจากภายนอก

ERVเป็นระบบที่นำเข้าอากาศผ่านท่อดักส์ส่งไปยังพื้นที่ต่างๆภายในอาคาร (ห้องนั่งเล่น,ห้องนอน เป็นต้น) และดูดอากาศภายในจากพื้นที่ที่มีความชื้นและมลภาวะสูง (ห้องน้ำ ,ห้องครัวและห้องซักล้าง )

นี่คือทางเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด เราขอแนะนำระบบระบายอากาศสำหรับบ้าน แม้จะมีราคาที่สูงกว่าแต่คุณจะสามารถควบคุมอากาศภายในบ้านได้

ติดต่อเราและเราจะช่วยคุณหาทางออก!

คลิกที่ลิงค์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ

WHO South East Asia 

Breathelife2030 – solutions in cities around the world

กำลังมองหาระบบระบายอากาศ ERV สำหรับที่พักอาศัยอยู่ใช่ไหม?

เพื่อสร้างคุณภาพอากาศที่เหมาะสมที่สุด เราออกแบบโซลูชันการระบายอากาศ ERV ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล กรอกแบบฟอร์มเพื่อรับคำแนะนำจากฝ่ายวิศวกร-ฝ่ายขายของเรา
We create Europeean Standard ERV Solutions Fill in the form to get personal guidance

Looking for ERV Residential Ventilation?

Creating the optimal solution for you requires knowledge of your specific situation. 

Book a free guidance call below